ชุมนุม 28 ก.พ. นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเจ้าหน้าที่จำเป็นใช้มาตรการดูแลผู้ชุมนุมเป็นไปตามหลักสากล วอนสื่อนำเสนอข่าว 2 ด้าน อย่าเสนอข่าวแต่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมข้างเดียว ด้านพรรคเพื่อไทยประณามและไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึง การชุมนุมวานนี้ (ชุมนุม 28 ก.พ.) ซึ่งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Restart Democracy – ประชาชนสร้างตัว” หรือ “รีเด็ม” (REDEM) เป็นผู้นัดการชุมนุมว่า เป็นการชุมนุมรุนแรง
“ท่านไม่ดูก่อนหน้า ที่จะเกิดการชุมนุม มีความรุนแรงเกิดขึ้น แรก ๆ ก็โอเคเป็นไปตามปกติของเขา ท่านก็รู้อยู่แล้ว ว่าเขาพูดจาอะไร ก็เป็นเรื่องเขาทำถูกทำผิด ก็ว่ากันไปตามกฏหมาย” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ การชุมนุมครั้งนี้ได้นัดหมายการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประมาณเวลา 15.00 น. ของวานนี้ เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักของนายกรัฐมนตรี โดยในช่วงค่ำได้มีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่จนเกิดการสลายการชุมนุมและเกิดความรุนแรงขึ้น
ศูนย์เอราวัณสรุปข้อมูลผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายชุมนุม เมื่อเวลา 06.30 น. มีจำนวน 33 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 23 คน และประชาชน 10 คน โดยนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ 22 คน โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 คน โรงพยาบาลพระรามเก้า 1 คน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1 คน และโรงพยาบาลราชวิถี 7 คน
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การชุมนุมที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น มีการบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจ และบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ ที่มีการหวงห้าม แล้วมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องมีการใช้มาตรการเป็นไปตามหลักสากล ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะอยู่อย่างไรในประเทศชาติบ้านเมือง ดังนั้นก็ขอให้นึกถึงบ้านเมืองเป็นหลักด้วย
พล.อ. ประยุทธ์ ยังขอร้องสื่อมวลชนนำเสนอข่าวการชุมนุมทั้งสองฝ่ายและให้นึกถึงบ้านเมืองเป็นหลัก
“ผมก็ติดตามสื่ออยู่นะ ว่าทำไมถึงออกข่าวเพียงข้างเดียวว่าตำรวจใช้ความรุนแรง ถ้าไปดูก่อนหน้าที่จะเกิดการชุมนุมมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็เป็นไปตามปกติของเขา แต่เมื่อมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นและมีการรุกเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจ และรุกเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นพื้นหวงห้าม และมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็จำเป็นต้องใช้มาตรการตามมาตรฐานสากล”
“เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้างนะ เขาต้องทำงานหนัก เขาต้องอดทน เขาต้องได้รับความรุนแรงเกิดขึ้นและเขาก็บาดเจ็บ เสียหายเหมือนกัน และการทำลายทรัพย์สินของข้าราชการ มันใช่ไหมหละ” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวประณามและไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ทบทวนท่าที และพิจารณาใช้มาตรการจัดการกับการเคลื่อนไหวของประชาชนตามมาตรฐานสากล เคารพและคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ แทนการใช้มาตรการที่มุ่งเน้นจำกัดหรือสกัดกั้นการชุมนุมของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิ์ทำร้ายประชาชนเกินกว่าเหตุราวกับอาชญากรร้ายแรง
ยันใช้กระสุนยาง เป็นไปตามขั้นตอนสากล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมวานนี้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้กระสุนยาง ในการควบคุมสถานการณ์ในคืนที่ผ่านมาว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งตำรวจได้ชี้แจงไปแล้ว โดยทำตามขั้นตอน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่า หากมีการชุมนุมลักษณะสร้างเงื่อนไขแบบนี้อีก จะใช้มาตรการสลายการชุมนุมแบบนี้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจวางมาตรการ โดยไม่ต้องใช้ทหาร
ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด
ขณะที่พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมาว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยเบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาร่วมกันชุมนุม จัดกิจกรรม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โทษจำคุก 2 ปี, ร่วมกันกระทำการใด ๆ เป็นเหตุให้แพร่ระบาด มีความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรค
นอกจากนี้ผู้ชุมนุมบางส่วนจะถูกแจ้งข้อหาในความผิด พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจได้รับบาดเจ็บมากถึง 90 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 27 คน และเสียชีวิต 1 คน ตำรวจควบคุมผู้กระทำความผิดได้ 22 คน คุมตัวไปสอบปากคำที่ ตชด. ภาค 1 จำนวน 18 คน อีก 4 คน เป็นเยาวชน ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.สุทธิสาร กำลังดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอนตามกฎหมาย
รู้จัก “รีเด็ม”
กลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” เปิดตัว “รีเด็ม” เมื่อวันที่ 24 ก.พ. โดยอธิบายว่าเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่ “มวลชนร่วมกันเป็นเจ้าของ” และ “ไม่มีแกนนำ ไม่มีการ์ด ไม่มี STAFF ไม่มีรถเวทีที่จะรวมศูนย์ความสนใจ มีเพียงมวลชนที่จะดูแลกันและกัน สามารถร่วมกันลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ด้วยการร่วมกันตัดสินใจ”
กลุ่มรีเด็มประกาศ “ธง” ที่พวกเขาเชื่อว่าจะนำเราไปสู่การเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง 3 ข้อ คือ
- จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์
- ปลดแอกประชาธิปไตยขับไล่ทหารออกจากการเมือง
- ลดความเหลื่อมล้ำด้วยรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า
ทั้งนี้กลุ่มเยาวชนปลดแอกจะเป็นฝ่ายสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การเคลื่อนไหวที่มวลชนเห็นร่วมกัน
ข้อมูลจาก : BBC