วันนี้ (30 มีนาคม) ที่องค์การสหประชาชาติ ( UN) ประจำประเทศไทย ตัวแทนจากกลุ่ม We Volunteer หรือ กลุ่มการ์ด WeVo นำโดย รัฐภูมิ เลิศไพจิตร โฆษกของกลุ่ม ได้เดินทางมายื่นหนังสือและพูดคุยกับบุคลากรของ UN เกี่ยวกับกฎหมายที่ทางกลุ่มมองว่ามีจุดประสงค์ปิดปากผู้เห็นต่างทางการเมือง และเพื่อยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกว่าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกของ UN
รัฐภูมิระบุว่า จากกรณีที่ โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ และสมาชิกคนอื่นๆ ถูกแจ้งข้อหา มองว่า สิ่งที่สมาชิกถูกกระทำกับรูปคดีนั้นไม่ได้สัดส่วนกัน จึงต้องการยื่นหนังสือต่อ UN เกี่ยวกับระบบความยุติธรรมในประเทศไทย เพราะความยุติธรรมคือพื้นฐานที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข เพราะฉะนั้นกฎหมายจึงสมควรปกป้องประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
สำหรับรายละเอียดของแถลงการณ์มีเนื้อหาระบุว่า เสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอันพึงมีของประชาชนทุกคนโดยไม่มีแบ่งแยกหรือข้อยกเว้น เป็นสิทธิที่ UN ได้ให้การรับรองได้ว่าสามารถกระทำได้โดยสุจริต ซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิก UN ลำดับที่ 55 และได้ดำเนินการภายใต้กรอบกติกามาตลอดระยะเวลามากกว่า 75 ปี
การแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพนั้น ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นภายใต้ประเทศสมาชิกของ UN เท่านั้น หากแต่เป็นปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน อีกทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศของไทย ก็ยังได้บัญญัติไว้อย่างชัดเจน ไม่มีกฎหมายหรือหลักอื่นใดจะมาหักล้างได้
แต่ที่ผ่านมา มีประชาชนผู้ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยตามหลักการดังกล่าวข้างต้นได้ถูกดำเนินคดี โดยกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม กฎหมายซึ่งลิดรอนสิทธิและปิดกั้นการแสดงออกซึ่งเสรีภาพเป็นจํานวนมาก รวมถึงปิยรัฐและสมาชิกของ กลุ่มการ์ด WeVo ากเหตุการณ์การเข้าจับกุมปิยรัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มาร่วมแสดงออกถึงเจตจำนงทางการเมืองของตนเองในวันที่ 6 มีนาคม 2564 นำมาซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงตามมาตรา 209 และ 210 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ล้าหลังและเป็นข้อกล่าวหาที่มีโทษรุนแรงเทียบเท่าผู้ก่อการร้าย ทั้งที่จริงๆ แล้วพวกเขาออกมาเรียกร้องตามสิทธิอันพึงมีของตนเองเท่านั้น
กลุ่ม WeVo มีความประสงค์ชี้แจงถึงการบังคับใช้กฎหมายอันไม่เป็นธรรมของรัฐไทย ขัดต่อแนวทางของ UN ขัดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องต่อ UN เพื่อเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่สนับสนุนความถูกต้อง ใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม สุจริต และเป็นที่ยอมรับในสากล เมื่อกฎหมายถูกใช้อย่างชอบธรรม จะยังประโยชน์ให้ประชาชนเคารพต่อกฎหมาย และนำมาซึ่งศักดิ์และสิทธิของกฎหมายเอง
รัฐภูมิเปิดเผยหลังการเข้ายื่นหนังสือใน 2 ประเด็น คือ การใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม โดย UN ระบุว่า ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และรับทราบถึงปัญหาการใช้กฎหมาย โดยเราก็ได้พูดถึงเพื่อนเราที่ถูกขังระหว่างพิจารณาคดี เป็นสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วย พยายามทุกทางที่เขาจะสามารถช่วยเหลือได้ และอีกประเด็นคือสถานการณ์ของเมียนมา